Salt-Market

แนะนำตลาดโรงเกลือสระแก้ว

“ตลาดโรงเกลือ” เป็นตลาดขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว ซึ่งถือว่าอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ตัวตลาดอยู่ติดกับชายแดนกัมพูชา ทำให้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก” เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของพ่อค้าแม่ค้า ที่พากันไปเลือกของเอามาขายในเมือง เพราะมีสินค้าราคาถูกมาขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หมวก ฯลฯ ตลาดโรงเกลือมีพื้นที่ 99 ไร่ พร้อมกับโรงเรือนกว่า 40 หลัง ประกอบด้วยร้านค้าเกือบ 1,300 ร้าน สินค้าที่นำมาขายที่นี่มาจากทั่วทุกทิศเลยก็ว่าได้ เช่น เขมร จีน รัสเซีย รวมถึงสินค้าไทยบางส่วน ในสมัยก่อนจัดได้ว่าเป็นตลาดที่ใหญ่สุด อาจเป็นรองแค่จากตลาดคลองเตย

แต่ก่อนตลาดนี้เคยใช้เป็นที่เก็บเกลือมาก่อน เป็นเกลือที่เอาไว้ส่งกัมพูชาใช้ทำปลาเค็ม ภายหลังในปี พ.ศ. 2522 เขมรต้องการนำเข้าเกลือน้อยลง ส่วนหนึ่งก็เกิดขึ้นจากกำลังผลิตของกัมพูชาหยุดชะงักลง สาเหตุมาจากสงครามกลางเมืองในยุคสมัยนั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ได้กลายมาเป็นตลาดที่มีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยจำนวนมาก เรียกว่า “ตลาดโรงเกลือ” ในแต่ละวันจะมีผู้คนแวะเวียนมาซื้อของไม่ต่ำกว่า 10,000 คน เป็นตลาดชายแดนที่สร้างรายได้ให้กับประเทศมากที่สุดของไทย

ตลาดโรงเกลือ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. สำหรับคนที่ไม่อยากเดิน มีบริการให้เช่าปั่นจักรยานในราคา 20 บาท ตั้งอยู่ตามจุดจอดรถต่างๆ ตอนนี้มีเสื้อผ้าจากหลากหลายประเทศนำเข้ามาเพียบ ถ้าเกิดใครเป็นสายช้อปตัวยง อาจจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเลือกของที่ถูกใจ หรือถ้าอยากจะได้เป็นแบบกระสอบ ที่ตลาดก็มีจัดให้ในราคาพิเศษ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา

แต่ไม่ต้องกังวลไปว่า จะคุยกันไม่รู้เรื่อง พ่อค้าที่นี่มีประสบการณ์ขายของมาหลายสิบปี ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการต่อรองราคาแน่นอน สิ่งที่อยากให้ระวังอีกเรื่องหนึ่งในการเดินเลือกซื้อของในตลาดคือ เหล่ามิจฉาชีพ ที่อาจจะฉวยโอกาสขโมยกระเป๋าตอนที่คุณเผลอ เวลาเดินต้องคอยหันดูรอบตัวให้ดี

Salt-Market-

ปัญหาของตลาดโรงเกลือ

ปกติแล้วสินค้าหลักจากตลาดโรงเกลือ จะเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ ซึ่งทำให้นำออกมาขายในราคาถูกได้ แต่เมื่อไม่นานนี้เอง ตำรวจเริ่มเข้ามาคุมเข้มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายร้านต้องถูกดำเนินคดี หรือไม่ก็ปิดร้านหนีกันไปเป็นแถว ทำให้จำนวนคนมาซื้อก็ลดน้อยลงจาก 100% เหลือเพียงประมาณ 30-40% แถมยังมีสินค้าจากตลาดจีนเข้ามาตีอีก โดยสินค้าจีนมีราคาถูกกว่าของที่ขายในประเทศไทย ทำให้คนก็เลือกไปซื้อจากตลาดจีน หรือสั่งออนไลน์กันมากกว่า ทำให้อนาคตตลาดแห่งนี้จะปิดตัวลงเมื่อไหร่ ก็ไม่มีใครจะรู้ได้